111 ภาษาไทยการใส่หรือการถอดตลับแบตเตอรี่ข้อควรระวัง: ปิดสวิตช์เครื่องและล็อคก้านเบรกก่อนติดตั้งและถอดตลับแบตเตอรี่ทุกครั้งข้อควรระวัง: ใส่ตลับแบตเตอรี่เข้าจนสุดจนไม่เห็นส่วนสีแดงอีกเสมอ ไม่เช่นนั้นตลับแบตเตอรี่อาจหลุดออกจากเครื่องมือโดยไม่ได้ตั้งใจ ท�าให้คุณหรือคนรอบข้างได้รับบาดเจ็บข้อควรระวัง: อย่าฝืนติดตั้งตลับแบตเตอรี่โดยใช้แรงมากเกินไป หากตลับแบตเตอรี่ไม่เลื่อนเข้าไปโดยง่ายแสดงว่าใส่ไม่ถูกต้องข้อควรระวัง: อย่าใช้ตลับแบตเตอรี่ที่มีอุณหภูมิสูงเมื่อตลับแบตเตอรี่ที่ใช้มีอุณหภูมิสูง เครื่องยนต์จะหยุดอัตโนมัติก่อนเสียงเตือนแบบสั้นจะดังขึ้น และอาจท�าให้ได้รับบาดเจ็บได้ข้อควรระวัง: ระวังอย่าให้หนีบนิ้วขณะเปิดหรือปิดฝาครอบแบตเตอรี่ข้อสังเกต: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณล็อคฝาครอบแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน มิฉะนั้น โคลน ฝุ่น หรือน�้าอาจท�าให้เกิดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์หรือตลับแบตเตอรี่ได้การใส่ตลับแบตเตอรี่1. ดึงก้านเบรกขึ้น จากนั้นเปิดฝาครอบกล่องแบตเตอรี่► หมายเลข 11: 1. ฝาครอบ 2. ก้านล็อค2. จัดลิ้นของตลับแบตเตอรี่ให้ตรงกับช่องของกล่องแบตเตอรี่ แล้วเลื่อนตลับจนล็อคเข้าที่และมีเสียงคลิกเบาๆ► หมายเลข 12: 1. ตลับแบตเตอรี่3. สอดกุญแจล็อคเข้าที่จนสุดตามที่แสดงในภาพ แล้วหมุนตามเข็มนาฬิกา► หมายเลข 13: 1. กุญแจล็อคหมายเหตุ: การหมุนกุญแจล็อค ให้สอดกุญแจล็อคจนสุด4. ปิดฝาครอบกล่องแบตเตอรี่► หมายเลข 14: 1. ฝาครอบการถอดตลับแบตเตอรี่1. ดึงก้านเบรกขึ้น จากนั้นเปิดฝาครอบกล่องแบตเตอรี่2. ดึงตลับแบตเตอรี่ออกจากกล่องแบตเตอรี่ในขณะที่เลื่อนปุ่มที่ด้านหน้าของตลับไว้► หมายเลข 15: 1. ปุ่ม3. หมุนกุญแจล็อคทวนเข็มนาฬิกา แล้วดึงออก4. ปิดฝาครอบกล่องแบตเตอรี่ระบบป้องกันเครื่องมือ/แบตเตอรี่เครื่องมือนี้มีระบบป้องกันเครื่อง/แบตเตอรี่ ระบบนี้จะตัดไฟที่ส่งไปยังมอเตอร์โดยอัตโนมัติเพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องมือและแบตเตอรี่ เครื่องมือจะหยุดท�างานระหว่างการใช้งานโดยอัตโนมัติ หากเครื่องมือหรือตลับแบตเตอรี่อยู่ภายใต้สภาวะดังต่อไปนี้เสียงเตือนสั้นหรือยาวจะดังขึ้นก่อนเครื่องหยุดโดยอัตโนมัติไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และดวงไฟบนแผงควบคุมจะกะพริบพร้อมกับส่งเสียงเตือนหมายเหตุ: เมื่อต้องการปิดเสียงเตือน ให้ปล่อยสวิตช์สั่งงานและดึงก้านเบรกการป้องกันโอเวอร์โหลดเมื่อเครื่องมือ/แบตเตอรี่ท�างานในลักษณะที่ท�าให้เกิดการดึงกระแสไฟฟ้าผิดปกติ เครื่องมือจะหยุดท�างานโดยอัตโนมัติและดวงไฟหลักจะกะพริบเป็นสีเขียว ในสถานการณ์นี้ ให้ปิดเครื่อง และหยุดการใช้งานที่ท�าให้เครื่องมือท�างานหนักเกินไป เช่นการลดของที่บรรทุก จากนั้นเปิดเครื่องเพื่อเริ่มการท�างานอีกครั้งการป้องกันความร้อนสูงเกินเมื่อเครื่องมือเกิดความร้อนสูงเกินไป เครื่องมือจะหยุดท�างานโดยอัตโนมัติ และดวงไฟหลักจะสว่างเป็นสีแดง ในกรณีเช่นนี้ให้ปล่อยให้เครื่องและแบตเตอรี่เย็นลงก่อนที่จะเปิดเครื่องอีกครั้งการป้องกันไฟหมดเมื่อความจุแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ ดวงไฟหลักและไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ที่เกี่ยวข้องจะกะพริบเป็นสีแดง ในกรณีนี้ให้เปลี่ยนตลับแบตเตอรี่ หรือเปลี่ยนตลับแบตเตอรี่เป็นก้อนที่ชาร์จเต็มแล้ว หรือถอดตลับแบตเตอรี่ออกจากเครื่องมือแล้วน�าไปชาร์จหมายเหตุ: ไฟหลักจะพริบเป็นสีแดงเมื่อแบตเตอรี่เกิดความร้อนสูงเกินไปการป้องกันจากสาเหตุอื่นๆข้อสังเกต: ดวงไฟหลักจะกะพริบเป็นสีเขียวและสีแดงสลับกันเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นในเครื่องมือ ในกรณีนี้โปรดดูที่ส่วนการแก้ไขปัญหา